Tunnel อุโมงค์มรณะ (2016) ถ้าว่าด้วยเรื่องของอีจองซู (ฮาจองอู) คุณพ่อลูกหนึ่งที่กำลัง เดินทางกลับบ้านไปอวยพรวันเกิดของ ลูกสาว ระหว่างทางนั้น ต้องขับรถผ่านอุโมงค์ลอดไต้ภูเขาแต่ด้วยมาตรฐานการก่อสร้างที่ไม่ดีพอทำให้อุโมงค์ถล่มลงมาทำให้เขาติดอยู่ในอุโมงค์โดยที่มีเพียงน้ำสองขวดกับเค้กวันเกิดลูกสาว โชคดีที่เขายังยังมีโทรศัพท์ให้ติดต่อกับโลก
ภายนอกและปฏิบัติการช่วยเหลือเขาก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อทางการระดมทีมกู้ภัยมาเพื่อช่วยเหลือหนึ่งชีวิตที่ติดในอุโมงค์ กระนั้นด้วยความผิดพลาดด้านมาตรฐานการก่อสร้างทำให้ปฏิบัติการล้มเหลวตามมาด้วยความสูญเสียของทีมกู้ภัยและภาวะชะงักงันในการก่อสร้าง โลกภายนอกต้องเลือกว่าจะช่วยเหลือเขาต่อไปหรือไม่เพราะล่วงเลยเวลามาเนิ่นนานจนไม่แน่ใจแล้วว่าอี
จองซูยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เพราะการสื่อสารนันก็ได้ ถูกตัดขาดไป ทางเลือกที่ยากลำบาก จึงตกอยู่ในมือของเซฮยอน (แบดูนา) ภรรยาผู้มาติดตามการกู้ภัยและช่วยเหลือเท่าที่กำลังของเธอจะทำได้และแน่นอนเธอเชื่อมั่นเสมอว่าสามีของเธอยังมีชีวิตอยู่ แล้ว ปาฏิหาริย์จะเกิดกับคนคนเดียว ที่รอความช่วยเหลือหรือไม่เมื่อต้องเลือก ระหว่างหลายชีวิตกับหนึ่งชีวิต
ดูหนังเถื่อน หนังดี หนังใหม่ ดูฟรีไม่มีโฆษณา
ว่ากันที่ ดูซีรีส์ หรือละครเกาหลีนั้น ดูไปบ่นไปเริ่มดูมาตั้งแต่แรก แล้ว เพราะเรื่องแรกที่ได้ดูคือ คุณแม่มือใหม่ใจเกินร้อย (Lady of Dignity หรือ Country Princess (2003)) หลังจากที่ได้ดูหนังเกาหลีมาบ้าง ที่จำได้แม่นคือตอนนั้นผู้เขียนได้ดูแบบออกอากาศ สดเหมือนตอนนี้ด้วยซ้ำ เพราะสมัยนั้นไม่มีสตรีมมิ่งที่มีให้ดูรวดเดียว เพียงแต่จำไม่ได้ว่าดูทางไหนไม่แน่ใจว่าทาง
ช่อง 5 หรือทางช่อง ITV เมื่อก่อน ซึ่งผู้เขียนจำได้แม่นเลยคือ เป็นเรื่องของแม่เลี้ยงเดี่ยววัยใส ที่ต้องสู้ชีวิตและต้องกอบกู้บริษัทที่ทำงานไปด้วยกันน้ำเน่าหน่อยตามสมัยนิยม แต่ที่ติดใจมาตั้งแต่ตอนที่ว่าคือนักแสดงหญิงแบดูนาที่เอาจริงคือเธอดูต่างจากนักแสดงหญิงเกาหลีทั่วไปเพราะไม่ได้สวยในแบบพิมพ์นิยมแต่มีความน่ารักเข้ามาทดแทนจนกลายเป็นรักแรก
ของผู้เขียนกับนักแสดงเกาหลี หลังจาก นั้นมาถ้ามีโอกาสจะดูงานของเธอเสมอมา แต่ส่วนมากเป็นผลงานทางจอเงิน เพราะอย่างที่บอกคือสมัยนั้นการหาดูซีรีส์เกาหลีไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนทุกวันนี้ ที่ผู้เขียนกำลังจะบอกคือหนังเรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้มีเหตุผลเดียวดูคือแบดูนาแต่ว่าหนังก็สนุกจนดูแล้วจำได้เลย ดูหนังhd ที่ ดูหนังฟรีออนไลน์ดอทเน็ต
เดิมทีแล้ว ผู้เขียนคิดว่าหนังเรื่องนี้ จะเป็นตอนแยก ของซีรีส์เรื่องเยี่ยม Tunnel อุโมงค์ลับซ่อนมิติ (2007) เพราะไม่ได้สังเกต ปีที่ออกฉายแต่ไม่ใช่ ซึ่งตัวหนังทำให้ไปนึกถึงหนังอย่าง Daylight (1996) ของซิลเวสเตอร์ สตอลโลนมากกว่าและอาจได้รับแรงบันดาลใจมาก็เป็นได้ เพราะหนังออกไปทางภารกิจกู้ภัยให้ลุ้นตื่นเต้นระทึกใจ ส่งด้วยบรรยากาศอึดอัดจนเผลอ
กลั้นหายใจในพื้นที่แคบๆ เช่นเดียวกับหนังอย่าง Daylight แต่ เรื่องนั้นมีความสนุกที่ฉาบฉวยกว่าแต่เรื่องนี้กลับมีมิติในการเล่าเรื่องมากกว่า และ บาลานซ์ดีกว่าระหว่างการเอาชีวิตรอดกับการพยายามช่วยชีวิต หนังยังคงอารมณ์ลุ้นและอึดอัดตามวิสัยแต่ก็ไม่ได้อัดมาจนหายใจติดขัดเพราะบทหนังเลือกเสนอมิติเชิงดราม่าเรื่องของปฏิบัติการกู้ชีพในสถานการณ์ที่ไม่
เป็นใจกับการตัดสินใจใน เรื่องยากๆความหวัง และ การรอคอยประเด็นด้านสังคม และ เรื่องของผู้มีอำนาจอิทธิพลที่ยังคงเห็นหน้าตาและภาพลักษณ์สำคัญกว่าชีวิตผู้ปฏิบัติงาน และ ผู้ประสบภัยอย่างน่ารังเกียจที่ถูกใส่มาอย่างพอดี หากว่าจะหวังเอาความลุ้นระทึก แบบแอ็กชันหนังเรื่องนี้ คงจะให้ได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอารมณ์ลุ้นระทึกยังมีแต่มัน ไม่ใช่จุดขายเพราะหนังมีพาร์ท
ของ ดราม่าส่วนตัว และ ประเด็นส่วนรวม ที่ประเดประดัง เข้ามาทำให้นอกจากลุ้น แล้ว ยังมีความเข้มข้นมีความหมาย มีความซาบซึ้งใจแฝงไว้เบื้องหลังที่เนียนตา ซึ่งถ้าจะว่ากันที่เรื่องของการมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังการรอคอยด้วยความหวังความพยายามที่จะช่วยชีวิตคนด้วยความหวังผ่านการเล่าเรื่องที่สนุกๆบทสนทนาที่อาจดูธรรมดาแต่มีผลต่อตัวเรื่องนั่นเพราะบท
สนทนาไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกยัดความคมให้ หรือหากจะดูเพื่อขุดค้นเบื้องลึก ในใจคนเมื่อต้องตัดสินใจ ในเรื่องที่ยากเนื่องจากมีชีวิตคนเป็นเดิมพันหนังเรื่องนี้มอบให้เต็มที่ดูง่ายไม่ฉาบฉวยหรือ ยัดเยียดความซาบซึ้ง เหมือนหนังปฏิบัติการ กู้ภัยบางเรื่อง ติดตามหนังใหม่ได้ที่เว้บของเรา ดูหนังออนไลน์ดอทคอม
แน่นอน คนที่ติดอยู่ในที่แคบๆ สุดอันตรายทำอะไรไม่ได้นอกจาก การรอคอยด้วยความหวัง ส่วนคนที่ให้ความหวังอย่างหัวหน้าทีมกู้ภัยนั้น ก็มีความหนักอึ้งในใจเมื่อปฏิบัติการยากกว่าที่คิด การรอคอยของภรรยาที่ไม่รู้ชะตากรรมของสามีมีเพียงแค่การติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้างบางคราว วัฒนธรรมการเอาหน้าของผู้มีอำนาจที่ทำอะไรต้องหวังผลและภาพลักษณ์ การทำ
หน้าที่ของสื่อที่ไร้ จรรยาบรรณ ทำทุกวิธีที่จะได้ข่าวเด็ด การต้องเลือกระหว่างความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจกับหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้ว่าอยู่หรือตาย การชั่งน้ำหนักระหว่างหลากหลายชีวิตและที่ต้องเสียสละแรงกายแรงใจกระทั่งบางคนต้องสละชีวิตกับหนึ่งชีวิตผู้รอคอย น้ำหนักของหยาดน้ำ ตาของแม่ผู้สูญเสียลูกชายจากปฏิบัติการกับหยาดน้ำตาของภรรยาผู้รอคอยสามีที่แม้จะ
เสียใจในการสูญเสียแต่ไม่มีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้า เรื่องราวประดามีเหล่านี้ ต่างหากที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความต่าง กับหนังกู้ภัยเรื่องอื่นๆที่เคยผ่านตามา เบื้องหน้าเป็นหนังหายนะและการกู้ภัยแต่มีหัวใจใส่เข้ามาในเบื้องหลัง เดิมทีผู้เขียนคิดว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นตอนแยกของซีรีส์เรื่องเยี่ยม Tunnel อุโมงค์ลับซ่อนมิติ (2007) เพราะไม่ได้สังเกตปีที่ออกฉายแต่ไม่ใช่
ซึ่งตัวหนังทำให้ไปนึกถึงหนังอย่าง Daylight (1996) ของซิลเวสเตอร์ สตอลโลนมากกว่าและอาจได้รับแรงบันดาลใจมาก็เป็นได้เพราะหนังออกไปทางภารกิจกู้ภัยให้ลุ้นตื่นเต้นระทึกใจ
หนังเรื่องนี้นั้น อาจไม่ได้จงใจเชิดชู ความกล้าหาญ และ การเสียสละของเหล่ามนุษย์ กู้ภัยอย่างออกนอกหน้า เพราะต้องสร้าง สมดุลสองทางก็จริงแต่ยังดีพอที่ เห็นอาการยกย่อง ทั้งนี้เพราะหนังไม่ได้จัดเต็มด้านปฏิบัติการ แต่เน้นประเด็นทางสังคมมากกว่าซึ่งสำหรับผู้เขียนเองคิดว่าด้วยประเด็นค่อนข้างมากถ้าว่ากันที่เวลาฉายเท่าที่มีแต่หนังยังคุมอยู่ไม่ให้เตลิดออก
ทะเลก็ต้องบอกว่า หนังมีบทภาพยนตร์ที่แข็งพอตัว เพราะคนดูจะรู้สึกว่ามีอารมณ์ร่วมในทุกประเด็นมาก บ้างน้อยบ้างก็ยังมี แต่สิ่งที่ต้องแลกคือความลุ้นระทึกอาจจะไม่เข้มแต่ความสนุกไปอยู่ที่ประเด็นทางสังคมและจิตใจทำให้หนังออกมาดูดีๆไปอีกมุม และคนดูก็ดูสนุกอยากรู้ว่าบทสรุป จะเป็นอย่างไรจนไม่อยากลุกไปไหน อยากรู้ว่าปาฏิหาริย์จะมีจริงหรือไม่แม้ว่าส่วน
ตัวผู้เขียนคิดว่าถ้าใส่ความเข้มในเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจ กับหนึ่งชีวิตที่ต้องเลือกกับความเป็นดราม่าประเด็นคนที่เฝ้าคอยความหวังอย่างอีจองซูกับหัวหน้าทีมกู้ภัยแดคยองให้มากกว่านี้เข้มกว่าการที่ต้องกินฉี่ตัวเองหนังอาจจะสมบูรณ์กว่านี้ก็เป็นได้ การรับผิดชอบหน้าที่ได้สมราคานักแสดงแถวหน้าของเกาหลีทั้งที่บทแบบนี้ก็เห็นมานักต่อนัก ส่วนสำคัญที่ทำให้
คนดูจะมีอารมณ์ร่วมกับทุกเรื่อง ที่ต้องการบทหนังมีส่วนแน่นอน แต่ ที่มีมากกว่านั้นคือ การแสดงที่ต้องถ่ายทอดอารมณ์ และ เจตนาของบทให้จับใจคนดูให้ได้ เช่นเดียวเรื่องนี้นักแสดงรับหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่มี บกพร่องสมราคาเบอร์ต้นๆของวงการบ้านเขา เพราะคนดูเชื่อจริงๆ ว่าอารมณ์ตอนนั้นเป็นเช่นนั้นจริงๆ
แต่สำหรับ Jung-soo สิ่งที่เขาเจออาจจะ หนักหนาสาหัสกว่าคนปกติทั่วไป เพราะ ระหว่างทางที่เขา กำลังขับรถยนต์กลับบ้าน โดยใช้เส้นทางลอดผ่านอุโมงค์ขนาดใหญ่ กลางภูเขา สิ่งที่เขาต้องเผชิญคืออุบัติเหตุ อุโมงค์ถล่มอย่างรุนแรง แม้จะรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ แต่เขา ก็ต้องติดอยู่ในรถใต้ซากของอุโมงค์ โอกาสรอดของเขาขึ้นอยู่กับโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่อง
เดียวในการขอความช่วยเหลือออกไป ซึ่งข่าวของเขาก็กลายมาเป็น หัวข้อที่ประชาชนให้ความสนใจทั้งประเทศ แต่สิ่งที่น่าห่วงคือหน่วยกู้ภัยจะทำภารกิจค้นหา Jung-soo ได้ทันเวลาก่อนที่เขาจะตายเพราะขาดน้ำหรืออาหารหรือเปล่า เพราะทีมกู้ภัยยากจะคาดเดาได้ว่าชายผู้โชคร้ายรายนี้ถูกฝังอยู่ที่ส่วนไหนของซากปรักกักพังที่ถล่มลงมาขนาดใหญ่นี้
ระหว่างที่นั่งชม “Tunnel” อยู่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงหนัง The 33 (2015) ที่เล่าเรื่องจริงของเหตุการณ์ คนงานเหมืองในชิลีที่ประสบเหตุถูกฝังทั้งเป็นใต้เหมืองลึกลงไปเท่าตึก 200 ชั้น ซึ่งในหนัง ‘Tunnel’ เองก็มีการเอ่ยถึงเหตุการณ์นี้ด้วย และ The Martian (2015) ในแง่ของการที่ประเทศต้องถูกจับตามองและต้องรวมพลังกัทุกหน่วยงานในการช่วยเหลือชายคนเดียว
ออกมาจากอุบัติเหตุให้ได้ ตัวหนังของผู้กำกับ Kim Seong-hun เรื่องนี้ เปิดเรื่องมาด้วยการพาเราไปพบกับฉาก อุบัติเหตุอุโมงค์ยักษ์ถล่มอย่างรวดเร็ว เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่าอุบัติเหตุเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เฉียบพลัน แบบ ไม่มีการส่งสัญญาณเตือนอะไรล่วงหน้า ดูหนังใหม่ hunger คนหิวเกมกระหาย
สถานการณ์เลวร้ายหนังเกาหลีกระแสเงียบอีกเช่นเคย เราเกาหลีเขาเก่งเรื่องใช้ฉากๆเดียวนะ ถึงอันนี้จะอลังกว่าก็เถอะ แต่อย่าง The Terror Live ที่ใช้แทบจะฉากเดียวก็ทำได้ดี อันนี้ก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะโฟกัสไปใต้อุโมงค์ที่ตัวเอกเราติดอยู่มากกว่าเรื่องนี้ไม่มีเนื้อเรื่องอะไรมากนอกจากอุโมงค์ถล่ม ติดอยู่ รอการช่วยเหลือ แต่มันอยู่ที่การดำเนินเรื่องมากกว่าซึ่งน่า
แปลกว่าหนังโคลงเรื่องแค่นี้ สามารถทำให้ยาวได้ สองชั่วโมง แต่พอดูเราก็จะรู้ว่าจริงๆแล้วสองชั่วโมงไม่พอด้วยซ้ำหากว่าจะหวังเอาความลุ้นระทึกแบบแอ็กชันหนังเรื่องนี้คงจะให้ได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอารมณ์ลุ้นระทึกยังมีแต่มันไม่ใช่จุดขายเพราะหนังมีพาร์ทของดราม่าส่วนตัวและประเด็นส่วนรวมที่ประเดประดังเข้ามาทำให้นอกจากลุ้นแล้วยังมีความเข้มข้นมีความหมายมี
ความซาบซึ้งใจแฝงไว้เบื้องหลังที่เนียนตา ซึ่งถ้าจะว่ากันที่เรื่องของการมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังการรอคอยด้วย ความหวังความพยายามที่จะช่วยชีวิตคนด้วยความหวังผ่านการเล่าเรื่องที่สนุกๆบทสนทนาที่อาจดูธรรมดาแต่มีผลต่อตัวเรื่องนั่นเพราะบทสนทนาไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกยัดความคมให้ หรือ หากจะดูเพื่อขุดค้นเบื้องลึกในใจคนเมื่อต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยาก
เนื่องจาก มีชีวิตคนเป็นเดิมพันหนังเรื่องนี้มอบให้เต็มที่ดูง่ายไม่ฉาบฉวย หรือยัดเยียดความซาบซึ้งเหมือนหนังปฏิบัติการกู้ภัยบางเรื่อง แต่ความบันเทิงยังมีเต็มเปี่ยมด้วยประเด็นเข้มๆมากมายแต่ ไม่หลุดเป็นหนังอีกเรื่องที่ดูได้ แบบ นั่งติดเก้าอี้ได้ตลอดเรื่อง และต้องดูเท่านั้นถึงจะพิสูจน์ ได้ว่าสุดท้ายปาฏิหาริย์ จะ มีจริงหรือไม่บอกได้แค่ว่านี่อาจไม่ใช่มุมมองที่เคยเห็นมาในหนัง อุโมงค์มรณะ
หายนะ และ การกู้ภัยอย่าง ที่คุ้นเคยแน่นอน ดารานำแสดง : ฮาจองอู แบดูนา นัมจีฮยอน โอดัลซู ชินจองกึน คิมแฮซุก พัคฮยอกควน ยูซึงมก ตัวละครมีความเป็นคนและน่าเอาใจช่วย หนังใส่มุขตลกร้ายที่แอบจิกกัดการทำงานของรัฐบาลที่สนแต่พิธีรีตองจนน่ารำคาญและน่าขำเอามากๆ รวมถึงสื่อในยุคสมัยนี้ที่ขาดจรรยาบรรณสนใจแค่จะขายข่าว คือดูแล้วก็รู้สึกได้ว่าถ้าเป็น